ประวัติหลวงพ่อตัดวัดชายนา จากคำบอกเล่า

หลวงพ่อตัด วัดชายนา อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี อายุ 75 ปี พรรษาที่ 55 ท่านโด่งดังมานานไม่ว่าตะกรุดหรือปลัด ท่านเป็นพระที่ชอบเรียนวิชาอาคมมาก สนใจตั้งแต่ยังหนุ่ม ท่านบอกว่า “สมัยก่อน ปี 2496 เอาหมด เอาทุกอย่างที่ไหนเขาว่าดีไปหมด ในกระจิวนี้ไปขอเรียนมาหมด…” พูดง่ายๆว่าตำราเก่าๆในจังหวัดเพชรบุรีนี้ท่านเรียนมาหมดครับ แต่ท่านไม่ค่อยคุยโอ้อวด ท่านเรียนวิชาการทำ “ตะกรุด” จาก ล.พ.ทอง อยู่ที่วัดเขากระจิวและ เรียนตำราของ ล.พ.กริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สาย ล.พ.กุน วัดพระนอน เรียนทำ “ปลัด” จาก ล.พ. ชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม ซึ่งมีเคล็ดลับว่าให้ใช้ “ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี” และ ท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับ ล.พ.ทองศุข วัดโตนดหลวง รวมทั้งอีกหลายอาจารย์ ท่านเป็นพระที่ใฝ่หาความรู้วิชาอาคมต่างๆ อย่างจริงจัง วัตถุมงคลของท่านนั้นทำเพื่อแจกและให้แก่ผู้ร่วมทำบุญบูรณะวัดอย่างแท้จริง หลวงพ่อไม่อวดตัว ไม่ให้สัมภาษณ์หรือนำเรื่องของท่านและวัตถุมงคลไปลงหนังสือ หรือรายการโทรทัศน์ใด ๆ ทั้งสิ้น วัตถุมงคลของท่านจึงมีชื่อเสียงจากประสบการณ์ปากต่อปากล้วนๆ ไม่มีสื่อภายนอกมาเป็นตัวช่วย และท่านเองก็ไม่ชอบให้โฆษณาด้วยครับ

รายละเอียด: หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี ปัจจุบันท่านอายุ 75 ปี พรรษาที่ 55 หลายคนคงเคยได้ยินชื่อและคงคุ้นหูมาบ้าง ไม่มากก็น้อย..โดยเฉพาะเรื่อง “ตะกรุด” และ “ปลัด” แต่คนส่วนใหญ่แทบจะไม่เคยรู้เลยว่าท่านไปเรียนวิชาอาคมกับใคร? และเป็นศิษย์สายไหนบ้าง? วันนี้ผมจะมาบอกให้ครับว่าท่านไปเรียนวิชากับใครมาบ้าง..จากปากคำของหลวงพ่อเอง ที่ผมได้ไปกราบนมัสการท่านและถามจากท่านเองโดยตรง..จริงๆแล้วท่านเป็นพระที่ชอบเรียนวิชาอาคมมาก สนใจตั้งแต่ยังหนุ่ม ท่านบอกว่า “สมัยก่อน ปี 2496เอาหมด เอาทุกอย่างที่ไหนเขาว่าดีไปหมด ในกระจิวนี้ไปขอเรียนมาหมด…” พูดง่ายๆว่าตำราเก่าๆในจังหวัดเพชรบุรีนี้ท่านเรียนมาหมดครับ แต่ท่านไม่ค่อยคุยโอ้อวด ใครจะให้ท่านทำอะไรท่านชอบพูดปัดไปว่า “ไม่เป็นๆ” แต่ก็เมตตาทำให้อยู่เสมอๆ จริงๆแล้วท่านเป็นศิษย์เอกของ2เกจิอาจารย์ยุคเก่า องค์แรกคือเรียนวิชาการทำ “ตะกรุด” จาก ล.พ.ทอง อยู่ที่วัดเขากระจิว เรียนตำราของ ล.พ.กริช ที่ตกทอดมาซึ่งเป็นพระยุคเก่าเป็นอาจารย์สาย ล.พ.กุน วัดพระนอนตกทอดมาอีกทีหนึ่ง…ส่วนองค์ที่สองท่านไปเรียนทำ “ปลัด” จาก ล.พ. ชุ่ม วัดกุฏิบางเค็ม โดยมีเคร็จรับว่าให้ใช้ “ไม้ผูกคอตาย ทำถึงจะดี” นอกจาก2ท่านอาจารย์ที่กล่าวมานี้แล้ว ท่านยังได้เดินทางไปต่อวิชากับ ล.พ.ทองศุข วัดโตนดหลวง อยู่หลายปี..เสร๊จแล้วไปเรียนวิชาคงกระพัน+คาถา”นางโลม”ต่อกับ อาจารย์พงษ์ เป็นอาจารย์สักยันต์ที่มีชื่อเสียงในสมันนั้น..แล้วไปเรียนต่อกับ”หมอพรหม” ได้วิชากันคุณไสย กันเขากระทำมา..หลังจากนั้นก็ได้ไปขอวิชา “นะมหาอ่อนใจ” กับโยมพร โดยวิชานี้ท่านนำได้มาทำสีผึ้งเมตตาค้าขาย..และอาจารย์ของท่านที่สำคัญอีกคนหนึ่งคือ “โยมพุฒ” อยู่แถวชะอำ ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจ ท่านได้ให้ ล.พ.ตัดไปหา และบอกว่าจะให้วิชาที่ได้เรียนมาทั้งหมด ซึ้งมีคาถาที่สำคัญๆอยู่หลายบทเช่น “มนต์พระสังฆ์”เรียกเนื้อ เรียกปลา และหนึ่งในคาถาที่สำคัญนั้นคือ “มนต์จินดา”เรียกคน เรียกลาภ และวิชาทำ “พระขรรค์” โดยโยมพุฒ ท่านเป็นศิษย์สายตรงของ ล.พ.โสก วัดปากคลองและล.พ. บุตร วัดพรหมวิหาร…และหลวงพ่อยังมีอาจารย์อื่นๆ อีกหลายท่าน ที่ท่านบอกมาอีกเยอะครับ แต่ผมจำไม่ได้ เพราะอยู่ต่อหน้าท่านผมไม่กล้าจดใส่ในกระดาษเกรงใจท่าน ได้แต่จำมาเท่านั้น..เป็นไงครับ ล.พ.ตัด วัดชายนา ปัจุบันนี้มีคนไปกราบนมัสการท่านเยอะครับ ส่วนใหญ่ไปขอของดีจากท่าน จนท่านทำไม่ทัน ท่านมีเมตตามาก เวลาใครไปขออะไรท่าน ท่านไม่เคยขัด ท่านจะพูดเสมอว่า “คนขอคนอยากได้ คนไม่ให้คนหน้าด้าน”