พระกริ่งชินบัญชร บรมครู 32 เนื้อนวโลหะ ก้นอุดผงพรายกุมาร จีวรดาดเพดาน หลวงปู่ทิม หมายเลข 2338

0.00 ฿

รายละเอียดเพิ่มเติม

พระกริ่งบรมครู 32 ปี49 เนื้อนวโลหะ ก้นอุดผงพรายกุมาร จีวรดาดเพดาน หมายเลย ๒๓๓๘ พร้อมกล่องเดิม

วันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๙ เป็นวันคล้ายวันมรณภาพครบ ๓๑ ปีย่างเข้าปีที่ ๓๒ ของหลวงปุ่ทิม อิสริโก ประกอบกับ พระกริ่งชินบัญชรที่ถือกำเนิดในเทวีฤกษ์ สร้างขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗ มีอายุการสร้างครบ ๓๒ ปี เช่นกัน ในวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่ทิมปีนั้นนอกจากจะทำบุญสัตมาวาร เพื่อระลึกถึงท่านดังเช่นที่ปฏิบัติกันมาทุกปีแล้ว วัดละหารไร่ ซึ่งมีพระครูวิจิตรธรรมาภิรัต (พระอาจารย์เชย) เจ้าอาวาสได้จัดพิธีเททองหล่อ พระพุทธมงคลมหามุนี ขึ้น (ปัจจุบันประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ชั้นล่าง ศาลาภาวนาภิรัต วัดละหารไร่)
มูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก จึงถือเอาเป็นวันมหามงคล เททองสร้าง พระกริ่งชินบัญชร ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อหารายได้ช่วยวัดละหารไร่ สร้างพระมหาเจดีย์ภาวนาภิรัต และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่างๆของมูลนิธิหลวงปู่ทิม อิสริโก อาทิ หน่วยช่วยเหลือประชาชนเคลื่อนที่ที่มาบตาพุด

โดยให้ชื่อว่า

พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ ถอดแบบจากพระกริ่งชินบัญชรองค์เดิมของหลวงปู่ทิม แต่จะดัดแปลงให้สวยงามและพระพักตร์ให้อิ่มเอิบเป็นเอกลักษณ์ เข้าหุ่นด้วยดินไทยและเททองหล่อแบบโบราณ ณ ลานวัดละหารไร่ ต่อหน้า องค์พ่อปู่ฤาษีอิสริโกมุนี พร้อม พระพุทธมงคลมหามุนี เวลา ๑๒.๓๙ น. โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
นั่งปรกปลุกเสกหน้าเตาหลอมทอง ๔ องค์ ๔ ทิศ คือ

ทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) พระอาจารย์ สาคร มนุญโญ วัดหนองกรับ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม

ทิศประจิม (ทิศตะวันตก) หลวงพ่อ สิน วัดละหารใหญ่ ซึ่งเป็นวัดพี่-วัดน้องกับ วัดละหารไร่ หลวงพ่อสินเอง เป็นศิษย์เอกอีกองค์หนึ่งของหลวงปู่ทิม ทั้งมีวัตรปฏิบัติที่งดงามเคร่งครัด และสำรวมยิ่งองค์หนึ่งของบ้านค่าย

ทิศอุดร (ทิศเหนือ) หลวงปู่ทรง วัดศาลาดิน จ.อ่างทอง พระเถระผู้มีกระแสจิตแก่กล้า นอกจากจะได้ชื่อว่า เสกเดี่ยวได้อย่างมั่นใจไม่ต้องให้ใครมาช่วยเดี่ยวแล้ว ท่านยังเป็นพระปรมาจารย์ที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณโด่งดัง ท่านรับนิมนต์มานั่งปรกที่วัดหลวงปู่ทิมด้วยความยินดี เพื่อช่วยให้กริ่งบรมครู ๓๒ ดังสุดๆอีกครั้งหนึ่ง

ทิศทักษิณ (ทิศใต้) ท่านเจ้าหรีด หรือพระครูบุญญาภินันท์ วัดปาโมกข์ จ.พังงา ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์สายใต้องค์หนึ่งซึ่งกำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ท่านนั่งปลุกเสกประจำทิศใต้ ท่านนั่งปลุกเสกมีดหมอรุ่นไหว้ครู (๑พฤษาคม๒๕๔๙) ต่อหน้ารูปหล่อหลวงปู่ทิม อิสริโก ที่มูลนิธิฯ คู่กับพระอาจารย์สาคร จนน้ำมนต์หมุนให้เห็นกันจะจะมาแล้ว และเหรียญรุ่น ๑ ของท่านเจ้าหรีดก็กำลังดังมีคนถูกยิงแล้วไม่ระคายผิว

เมื่อวันเททองหล่อ พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๙ นอกจากฝนฟ้าจะว่างเว้นให้อย่างอัศจรรย์ ๒ วัน ๒ คืน ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ทิม ตลอดจนเทพพรหมมากันมืดฟ้ามัวดิน จนบดบังแสงอาทิตย์ที่กำลังแผดกล้า แล้วยังมีเหตุอัศจรรย์ที่จะเรียกว่าอภินิหารหรือปาฏิหารย์ก็เห็นจะไม่ผิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรบรมครู ๓๒ ท่ามกลางสายตาผู้เข้าชมการเททองพระกริ่งนับพันคน การเททองหล่อพระพุทธรูปเป็นภูมิปัญญาของไทยเรามาแต่โบราณ จนถึงยุครัตนโกสินทร์ก็มีบ้านช่างหล่อ มีตระกูล วงศ์ช่างหล่อ แต่ปัจจุบันการสร้างพระปฏิมากรขนาดเล็กแบบพระกริ่ง มีการทำกันอยู่ ๒ ลักษณ์ คือ สร้างด้วยดินไทย และ สร้างด้วยดินฝรั่ง การสร้างด้วยดินฝรั่งเป็นการดัดแปลงเอาวิธีการของฝรั่งมาใช้ในการสร้างพระ พุทธรูปขนาดเล็ก โดยเอาวัตถุที่ใช้พอกหุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อทำจิวเวอรี่ หรือหล่อวัตถุต่างๆอันได้แก่เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาดัดแปลงเป็นการ หล่อพระที่เรียกว่า เหวียง แทนที่จะใช้ ดินไทย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั่งเดิมของบรรพบุรุษ

การเททองแบบดินไทยต้องใช้ขี้วัวเป็นวัตถุดิบสำคัญ และต้องใช้ขี้วัวสดๆ ที่ถ่ายออกมาใหม่ๆ ผ่านกรรมวิธี เป็นดินพอกหุ่น

พราหมณ์ซึ่งเป็นเจ้าพิธีการมาแต่ครั้งโบราณถือว่า ของที่บริสุทธิ์และเป็นมงคลตามธรรมชาติที่จะต้องนำมาใช้ในงานพิธีสำคัญๆไม่ ว่าจะเป็นงานของชาวบ้านหรืองานพระราชพิธีของพระมหากษัตริย์ มีอยู่ ๒ สิ่งคือ หอยสังข์ และ มูลโค หรือขี้วัว หอยสังข์ใช้เป่าในงานพระราชพิธีต่างๆถือว่าเป็นของบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ โดยธรรมชาติ ส่วนมูลที่โคถ่ายออกมาก็ถือว่าเป็นของบริสุทธิ์โดยธรรมชาติ เพราะโคไม่เคยเบียดเบียนใคร กินแต่หญ้ามาโดยตลอด มูลโคจึงถือเป็นของบริสุทธิ์ บรรพบุรุษของเราจึงเอามาเป็นวัสดุสำคัญในการหล่อพระ

การหล่อพระกริ่งชินบัญชรบรมครู ๓๒ ตั้งใจทำด้วยความบริสุทธิ์ เอาสิ่งที่ถือว่าบริสุทธิ์ที่เกิดเองมาหล่อ เพื่อให้ท่านที่เคารพนับถือหลวงปู่ทิม มีของมงคลของบริสุทธิ์ไว้ใช้ และคงเป็นความบริสุทธิ์ใจของคณะผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ขณะเททองประการแรกเมื่อได้ฤกษ์เททอง ๑๒.๓๙ น. อันเป็นราชาฤกษ์ เมื่อฆ้องประกาศฤกษ์ลั่นขึ้นพระอาทิตย์เวลาเที่ยงวัน ซึ่งกำลังส่องแสงอันแรงกล้าปราศจากเมฆหมอก ความร้อนจากแสงอาทิตย์กำลังแผดกล้า(หลังฝนตกหนักติดต่อกันมาแล้ว ๒ วัน เพราะดีเปรสชั่นเข้ามาทางภาคตะวันออก) ถ้าใช้มือป้องสายตามองขึ้นไปจะเห็นพระอาทิตย์กำลังทรงกลด

คุณไพศาล ช่างการบินไทย ซึ่งพาภรรยามาร่วมพิธีด้วย เล่าให้ฟังภายหลังว่า ได้สะกิดให้ภรรยาซึ่งนั่งอยู่ในเต้นท์ที่อยู่ในประรำพิธีแหงนหน้าขึ้นไปมอง พระอาทิตย์ มีเมฆหมอกมาบังให้ร่มเย็นอย่างอัศจรรย์ แต่ภรรยาซึ่งก็กำลังมองท้องฟ้าอยู่บอกว่า อย่ามากวนใจกำลังมีความสุข ซึ่งอธิบายหลังพิธีว่า มองขึ้นบนท้องฟ้า เห็นรัศมีขาวใสดุจประกายเงินประกายทองของเทพ พรหม ครูบาอาจารย์เต็มไปหมด และโปรยปรายประกายเงินประกายทองลงมาในพิธี
ขณะนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องว่า น้ำทองกระโดด จึงหันหลังกลับไปดูการเททอง นายสมบัติ ชัยยะ ซึ่งเป็นช่างเททองของโรงหล่อ ขุน-ชิน ลูกศิษย์สายตรงของอาจารย์ มาลี พัฒนากร ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่สายพระกริ่ง ขณะที่ช่างสมบัติ ชัยยะ กำลังตักน้ำทองออกจากเตาหลอมเพื่อเทลงในเบ้าพระกริ่ง น้ำทองโลหะที่กำลังละลายเป็นน้ำเหลวๆมีอุณหภูมีกว่า ๔,๕๐๐ องศา เกิดระเบิดขึ้นมาจากเบ้า แตกกระเด็นมาถูกเสื้องานกริ่งบรมครู ๓๒ สีขาว(ด้านหลังมียันต์๕) ตรงต้นแขนด้านขวา ความร้อนของโลหะที่ละลายเป็นน้ำถูกเสื้อขาดเป็นรู แทนที่น้ำทองร้อนๆจากโลหะจะเจาะทะลุเข้าไปโดนเนื้อจนถึงกระดูกแล้ว กลับไหลเป็นน้ำตกลงไปยังพื้นทรายเททองรองรับไว้ ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ที่เฝ้าชมการเททองนับร้อยๆคน จากนั้นต่างคนต่างวิ่งไปขอบูชาเสื้อตัวละ ๓๐๐ บาทซึ่งเหลือไม่กี่ตัวไปจนหมด ผู้ที่บูชาเสื้อไม่ได้ต่างขอบูชาต่อจากผู้ที่ได้ไป จนบางคนโก่งราคาถึงตัวละ ๑,๐๐๐ บาท ก็ยังมีผู้บูชาไป

ส่วน กัปตันมานิตย์ รุธีรยุทธ ซึ่งมีซิกเซ้นต์ มาร่วมงานกับคุณพิมพ์กานต์แฟนสาว บอกผู้เขียนก่อนเริ่มการเททองให้หาอาสนะไว้ที่หนึ่ง ปูรองด้วยใบตองและหญ้าคา เพราะหลวงปู่ทิม อิสริโก ท่านได้นิมนต์พระเถระผู้ใหญ่มาร่วมพิธด้วย กัปตันบอกว่าน่าจะเป็น สมเด็จพระพนรัตน วัดป่าแก้ว ปรมาจารย์เจ้าของตำรับการสร้างพระกริ่ง หรือพระชัยฉลองพระเดชพระคุณที่ผมได้มาจากกุฏิสุนทรภู่ วัดเทพธิดาราม เรื่องที่เล่านี้เป็นความเชื่อของผู้ที่เคารพนับถือหลวงปู่ทิมที่มาร่วมงาน

การสร้าง พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ หรือ รุ่นทองกระโดด ครั้งนั้นจะสร้างแบบโบราณด้วยการเข้าหุ่นด้วยดินขึ้วัวหรือดินไทยแบบโบราณ โดยถอดแบบพระกริ่งชินบัญชร รุ่นแรกปี ๒๕๑๗ แล้วยังจะคงไว้ซึ่งของเก่าๆ สมัยหลวงปู่ทิม ยังมีชีวิตอยู่ และมอบให้ผู้เขียนไว้ โดยจะบรรจุผงอุดก้นด้วยมวลสาร

แต่เมื่อเสียงฆ้องตีบอกฤกษ์ดังขึ้น ท้องฟ้าซึ่งขณะนั้นพระอาทิตย์กำลังส่องแสงอันร้อนแรงเพราะปราศจากเมฆหมอกมา บดบัง พลันเมฆหมอกจากที่ไกลๆก็พากันเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วมาบดบังดวงอาทิตย์ ทำให้ท้องฟ้าครึ้มลง มีร่มเงาเกิดขึ้น อากาศเย็นสบาย

-ผงพรายกุมาร ผสมสีผึ้ง หลวงปู่ทิม อิสริโก
-น้ำมันพระเจ้าตาก ที่ฝังไว้เมื่อ ๒๐๐ ปีก่อน
-น้ำมันใส่ผมตราสงกรานต์ ที่หลวงปู่ทิม ปลุกเสกในพระอุโบสถวัดกระบกขึ้นผึ้ง เมื่อปี ๒๕๐๓ และเจ้าของนำมาฝากหลวงปู่ทิม ปลุกเสกต่อจนท่านมรณภาพ ก็ไม่มารับ(รวมเวลาที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกร่วม ๑๖ ปี)
-จีวร น้ำมันเสือ น้ำมันพราย สีผึ้ง และปิดก้นด้วยจีวรดาดเพดาน หรือ คาย อันเป็นที่สถิตย์ของครูบาอาจารย์ เมื่อหลวงปู่ทิมทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลในกุฏิของท่าน เมื่อตบแต่งพระกริ่งสำเร็จแล้วจึงลงรักปิดทองบูชา ให้สมชื่อ พรายกุมารทอง

รายละเอียดการสร้างพระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ มีดังนี้

-พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อสุวรรณชมพูนุท หรือทองคำ สร้าง ๓๒ องค์เท่ากับจำนวนปี ๓๒ ปีของอายุการสร้างพระกริ่งชินบัญชร ซึ่งกำเนิดขึ้นเมื่อ ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๗ ทุกองค์อุดมวลสารผงพรายกุมาร เม็ดลูกปืนเสกแม่ไม่ฆ่าลูกของหลวงปู่ทิมและปิดจีวรดาดเพดานเต็มฐาน

-พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อพิเศษพรายเงิน เป็นเนื้อโลหะแข็งผสมทังสเตน (เหมือนเนื้อกริ่งชินบัญชร เนื้อบรมพุทโธ ปี๒๕๑๗) มองดูคล้ายเงิน แต่หนักและมีมวลสารมากกว่า ก้นอุดผงพรายมวลสาร และปิดจีวรดาดเพดานเต็มฐาน

-พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อเงิน สร้าง ๓๓๒ องค์ แต่มีการเทเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ถึง ๔๐๐ องค์ ดังนั้นจึงตอกลำดับเลข ๑-๓๓๒ อุดผงพรายกุมารผสมวัตถุอาถรรพ์ ติดจีวรดาดเพดานเต็มฐาน

-พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อนวโลหะ อุดผงพราย,มวลสาร สร้าง ๒,๕๓๒ องค์ แต่เททองเผื่อ และตอกลำดับเลขไว้ถึงราว ๒,๖๙๙ องค์ (ส่วนที่เกิน หมายเลข ๒,๕๓๒ มักไม่จ่ายออกภายนอก แต่อาจนำไปหุ้มก้นเป็นนวโลหะก้นทองคำ, ก้นเงิน ,ก้นหุ้มทองแดง แทน)

-พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อนวโลหะ อุดผงพรยก้นหุ้มทองคำ สร้าง ๓๒ องค์

-พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อนวโลหะ อุดผงพรายก้นหุ้มเงิน สร้าง ๓๒ องค์

-พระกริ่งชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อทองทิพย์ อุดผงพราย,จีวรดาดเพดาน สร้าง ๑,๙๓๒ องค์

-พระชัยวํฒน์ชินบัญชร บรมครู ๓๒ ขนาดบูชา ๕ นิ้วเทนำฤกษ์ ๑๒.๓๙ น. ถอดพิมพ์จากพระชัยวัฒน์ชินบัญชรปี๒๕๑๗ สร้าง ๓๙ องค์

-พระชัยวัฒน์ชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อเงิน ถอดพิมพ์พระมงคลมหามุนี อุดผงพรายมวลสาร สร้าง ๓๓๒ องค์

-พระชัยวัฒน์ชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อนวะ ถอดพิมพ์พระมงคลมหามุนี อุดผงพรายมวลสาร สร้าง ๒,๕๓๒ องค์

-พระชัยวัฒน์ชินบัญชร บรมครู ๓๒ เนื้อสัมฤทธิ์ ถอดพิมพ์พระมงคลมหามุนี อุผงพรายมวลสาร มี ๒ พิมพ์ คือ พิมพ์ลอยองค์ ,และ พิมพ์หลังเตารีด สร้างรวม ๑,๕๓๒ องค์

-พระอวโลกิเตศวร เนื้อนวโลหะ สร้าง ๙๓๒ องค์ อุดผงพรายมวลสาร