ประวัติ หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย เจ้าอาวาส วัดสุทธาวาส วิปัสสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย พรรษา ๑๐ อายุ ๓๖ วิทยาฐานะ นักธรรมชั้นเอก พระวิปัสสนาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส วิปัสสนา สำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัด แห่งที่ ๑๓ บรรพชาอุปสมบท ณ วัดหลักชัย ตำบลหลักชัย อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี พระครูสิริธรรมทัต (สุมิตร สิริจนฺโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโฆษิตวิหารคุณ (ชอุ่ม โฆษโก) เป็นพระกรรมวาจารย์ พระครูเกษมปทุมรักษ์ (ทองหล่อ ชิตฺจิตโต) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ครั้งอุปสมบทแล้วได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่วัดหลักชัย จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก อุปสมบทได้ ๔ พรรษา เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส ได้มรณภาพลง เจ้าคณะตำบลลาดบัวหลวงจึงได้ส่งมารักษาการเจ้าอาวาส เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ และได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้พัฒนาวัดและสอนการปฎิบัติกรรมฐานตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้

ชาติภูมิ
หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย เกิดในสกุล จูนิยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2515 (ตรงกับขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1) ปีชวด ที่บ้านเลขที่ 103/1 หมู่ที่ 4 ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ครอบครัวประกอบอาชีพเลี้ยงปลาสลิด โยมบิดาชื่อ นายสำราญ จูนิยม โยมมารดาชื่อ นางนวล จูนิยม มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด จำนวน 3 คน
1. หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย
2. นายสาโรจน์ จูนิยม
3. นางศิรัตน์ จูนิยม
ชีวิตปฐมวัย
หลวงพ่อรักษ์ ในช่วงวัยเด็กได้รับการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนจากบิดามารดา และญาติมิตรเป็นอย่างดีเช่นบุตรคนอื่นๆ ความเป็นอยู่สนุกสนานตามวัยเด็กทั่วไป มีสุขภาพแข็งแรง และชอบเข้าวัดทำบุญโดยจะไปกับคุณยายทุกวันพระ รวมทั้งยังมีอุปนิสัยชอบพูดคุยกับพระเณร ชอบศึกษาเขียนอักขระขอมและเลขยันต์ต่างๆ อยู่เนืองนิตย์ ท่านได้รับการศึกษาจากโรงเรียน หลวงพ่อปาน คลองด่านอนุสรณ์ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ สำเร็จการศึกษามัธยมปีที่ 3 เมื่ออายุ 19 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดแจ่มราษฎร์ศรัทธาธรรม จ.สมุทรปราการ โดยมี หลวงพ่อสะอาด (ศิษย์สาย หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย) เป็นพระอุปัฌาย์ ท่านได้ปฏิบัติรับใช้ หลวงพ่อสะอาด และศึกษาธรรมต่างๆ ทั้งรวมกรรมฐาน จากพระอุปัชฌาย์ ซึ่งต่อมาได้ลาสิกขามาช่วยโยมบิดามารดาประกอบอาชีพทางบ้าน
อุปสมบท
หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2542 ณ พัทธสีมา วัดหลักชัย ต.หลักชัย อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พระครูสิริธรรมทัต (หลวงพ่อสุมิตร) เจ้าอาวาสวัดหลักชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโฆษิตวิหารคุณ วัดตรีพาราสีมาเขต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูเกษมปทุมรักษ์ วัดลาดปทุมคงคาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า อนาลโย หมายถึง ผู้ไม่มีอาลัย เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดหลักชัย คอยอุปัฏฐากรับใช้พระอุปัชฌาย์ จนกระทั่งพระอุปัชฌาย์มรณภาพลง ซึ่งระหว่างนั้นท่านก็ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม ปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน อยู่เนืองนิตย์ และสามารถศึกษาสอบนักธรรมชั้น ตรี – โท – เอก ได้อย่างเจนจบ และที่น่าอัศจรรย์ หลวงพ่อรักษ์ สามารถท่องจำพระปาฎิโมกข์ได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ท่านยังเป็นศิษย์วัดอยู่
อุปนิสัย
หลวงพ่อรักษ์ ท่านเป็นพระภิกษุผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย อุปนิสัยรักความสงบ ชอบปฏิบัติกรรมฐาน รวมทั้งชอบศึกษากรรมฐาน และพระไตรปิฎก รวมทั้งไสยเวทย์ต่างๆ ปณิธานในเพศบรรชิต ท่านตั้งใจที่จะเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนถึงการสอนสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ให้แต่ศิษย์ยานุศิษย์ทั่วไป เพื่อเป็นหลักการดำรงชีวิต ให้ศิษย์มีความเจริญรุ่งเรือง ทั้งทางโลกและทางธรรม
เกียรติประวัติ และสมณศักดิ์ฐานานุกรม
พ.ศ. 2542 สอบได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม พระภิกษุ-สามเณร)
พ.ศ. 2544 สอบได้นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พ.ศ. 2545 สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พ.ศ. 2545 ได้รับแต่งตั้งเป็น พระสมุห์ ในฐานานุกรมของ พระครูสุภัทรกิตติ เจ้าอาวาสวัดลาดบัวหลวง เจ้าคณะอำเภอลาดบัวหลวง (ปัจจุบันมรณภาพแล้ว)
พ.ศ. 2545 ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพระกรรมฐานประจำจังหวัด รุ่นที่ 1 (กรมศาสนา) เป็นพระวิปัสสนาจารย์
พ.ศ. 2545 ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขานุการ เจ้าคณะอำเภอลาดบัวหลวง (ปัจจุบันลาออกแล้ว)
พ.ศ. 2545 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการแทน เจ้าอาวาสวัดสุทธาวาส (เป็นพระกรรมวาจาจารย์)
พ.ศ. 2546 ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพระกรรมฐานประจำจังหวัด รุ่นที่ 1 (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) เป็นพระวิปัสสนาจารย์
พ.ศ. 2547 รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดสุทธาวาส พัฒนาวัดได้รับแต่งตั้ง เป็นศูนย์อบรมคุณธรรมจริยธรรม พัฒนาวัดได้รับการแต่งตั้งเป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล (อ.ป.ต.)
พ.ศ. 2549 พัฒนาวัดให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมสอบกรรมฐาน ได้รับแต่งตั้งจากมหาเถรสมาคม ให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แห่งที่ 13 โดยมี พระสมุห์สมรักษ์ อนาลโย (หลวงพ่อรักษ์) เป็นเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม
พ.ศ. 2552 ได้รับพิจารณาแต่งตั้ง ให้เป็นประธานจัดสร้างพุทธมณฑลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้านการพิธีกรรมปลุกเสก สร้างพระเครื่อง และวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ
การสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ของ หลวงพ่อรักษ์ ท่านได้เริ่มสร้างเป็นพระผงขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อตอนท่านอายุ 30 ปี โดยท่านได้นำวิชาความรู้ต่างๆ ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา โดยเริ่มเขียนยันต์ ลงผงอิทธิเจ และผงยันต์ต่างๆ รวมทั้งหามวลสาร เช่น ผงเกษรดอกไม้บูชาพระ, ดอกไม้บูชาครูอาจารย์, ผงธูป, ผงพระเครื่องหักต่างๆ, ผงว่าน นำมาผสมทำวัตถุมงคล และทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกมวลสารเป็นปฐมฤกษ์ ก่อนปั้มพระ และเมื่อสร้างเป็นองค์พระเครื่องเรียบร้อยแล้ว ก็นำมาปลุกเสกไตรมาสอีก 3 เดือน วัตถุมงคลของ หลวงพ่อรักษ์ มีหลายรูปแบบ พระสมเด็จ พระปิดตา พระกริ่ง กำไล ตะกรุด พญาหนุมาน พญาคชสีห์ กระทิง เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อหาทุนทรัพย์สร้างและพัฒนาวัดสุทธาวาส วิปัสสนา เป็นลำดับ หลวงพ่อรักษ์ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของตะกรุดจารมือรุ่นต่างๆ สำหรับ ตะกรุดที่โดดเด่นมีประสบการณ์สูงของท่าน คือ “ตะกรุดมหาบารมี ๓๐ ทัศ” ซึ่งศิษยานุศิษย์และสาธุชนต่างขนานนามท่านว่า “หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย เจ้าตำหรับตะกรุดมหาบารมี ๓๐ ทัศ แห่งทุ่งลาดบัวหลวง เมืองกรุงศรีอยุธยา” วัตถุมงคลของ หลวงพ่อรักษ์ นั้นส่วนมากท่านมักจะปลุกเสกของท่านด้วยพุทธาคมที่ท่านร่ำเรียนมาอย่างเต็มพลัง หลักการอธิษฐานจิตของท่านนั้นจะเน้นไปทาง เมตตามหาเสน่ห์ – โชคลาภ เงินทอง – ความสำเร็จ – กันคุณไสยต่างๆ และด้านแคล้วคลาดกันภัยคงกระพัน เป็นเลิศ การทำวัตถุมงคลของ หลวงพ่อรักษ์ นั้น ท่านมีหลักเกณฑ์ในการวินิจฉัย 4 ประการสำคัญคือ
     1. ดูที่เจตนา ถ้าวัตถุประสงค์ดี วัตถุมงคลจึงจะดี
     2. พิธีกรรม ถูกต้องตามโบราณกาลหรือไม่
     3. มวลสารดี
     4. ดูฤกษ์ผานาทีว่าเหมาะสมหรือไม่
หลวงพ่อรักษ์ ท่านสร้างวัตถุมงคลเพื่อสร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา ท่านกล่าวย้ำเสมอว่า… การทำวัตถุมงคลต้องตั้งใจทำ ให้ผู้นำไปใช้ได้รับพุทธคุณครอบจักรวาล… วัตถุมงคลทำไว้มอบให้กับญาติโยมที่บริจาคสมทบทุนสร้างวัด ไม่ได้ทำเพื่อซื้อขาย เป็นที่ระลึกว่าใครได้ไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างถาวรวัตถุ ถวายไว้ในพระพุทธศาสนามาเท่านั้น
ด้านการอบรมธรรมมะ สอนสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน
หลวงพ่อรักษ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่เชี่ยวชาญในการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้พัฒนาวัดสุทธาวาสจากเดิมที่เป็นวัดธรรมดาทั่วไป จนเป็นที่รู้จักแก่สาธุชน ว่า “วัดสุทธาวาส วิปัสสนา” เป็นสำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แห่งที่ 13 (วัดที่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมนี้ มีดีกรีเทียบเท่ากับพระอารามหลวงชั้นตรี) ผลงานและสิ่งที่ หลวงพ่อรักษ์ ตั้งใจทำมาตลอดคือ งานด้านการเผยแผ่หลักธรรม คำสอนขององค์ สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้า ในรูปแบบของการปฏิบัติสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน โดยเริ่มทำมาตั้งแต่ท่านได้เข้ามาอยู่วัดแห่งนี้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการปฏิบัติธรรมจะจัดขึ้นทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ สุดท้ายของสิ้นเดือน ตลอดทั้งปี โดยมี หลวงพ่อรักษ์ เป็นเจ้าสำนัก และสอนกรรมฐาน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังแสดงถึงการที่หลวงพ่อเมตตาหวังดีต่อศิษยานุศิษย์และสาธุชน ที่หวังให้ลูกศิษย์ทุกคนมีศีล สมาธิ ปัญญาที่ดี และยังมีสุคติเป็นที่ไป อีกทั้งมีความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนาตลอดไป

หลวงพ่อรักษ์ อนาลโย ได้ถวายตัวเป็นศิษย์ และเรียนพระคาถาพุทธาคมจาก พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อแต่ละองค์นั้น ท่านก็ได้ประสิทธิ์ประสาทพุทธาคมของท่านให้แก่พระอาจารย์รักษ์ และยังได้มอบเหล็กจารของท่านให้กับ พระอาจารย์รักษ์ ไว้บูชาและใช้ในพิธีพุทธาภิเษกต่างๆ

  1. หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    สอนกรรมฐาน ทำน้ำมนต์ วิชาบารมีสิบทัศ สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  2. หลวงปู่เยื่อ วัดใหม่หญ้าไทร
  3. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
  4. หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    สอนเขียนยันต์ตรีนิสิงเห สอนกรรมฐาน สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  5. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
    สอนกรรมฐาน สอนเขียนอักขระขอม เมตตามหาอุด หัวใจตัวเฑาะก์ วิชาคงกระพันและเมตตามหานิยม สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  6. หลวงพ่อเขียน วัดกะทิง
    สอนกรรมฐาน วิชาเรียกลาภ หัวใจมนุษย์ หัวใจกระทิง สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  7. หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี
    ถ่ายทอดวิชาปลุกเศกวัตถุมงคลทางพลังจิต สอนวิชาจารตะกรุดโทน ตะกรุดชุด 12 ดอก กันปืน กันช้าง กันเสือ กันปืนใหญ่ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์ ประสิทธิ์ประสาทพุทธาคมให้แก่ศิษย์
  8. หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    สอนกรรมฐาน ทำน้ำมนต์หัวใจแคล้วคลาด หัวใจพระเวทย์คาถาต่างๆ สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  9. หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    สอนกรรมฐาน และอิติปิโสถอยหลัง (แก้เคล็ดกลับร้ายกลายเป็นดี) สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  10. หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม
    สอนกรรมฐาน นะเมตตา คาถาอุดปืน สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  11. ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล
    สอนเขียนอักขระล้านนา (ยันต์พระเจ้า 5 พระองค์) วิชาบารมี 7 ชั้น (ตำหรับครูบาศรีวิชัย) มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  12. หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    สอนกรรมฐาน สอนวิธีทำเบี้ยแก้ ตำหรับวัดกลางบางแก้ว สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ มอบเหล็กจารประจำตัวให้แก่ลูกศิษย์
  13. ครูบาชุ่ม จ.เชียงราย
    สอนหัวใจนะมหาจังงัง สอนเขียนพระยันต์ประจำตัว ใช้ทำผงพระและทำแผ่นชนวนโลหะ ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่ลูกศิษย์
  14. หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้
  15. พระพรหมสุธี วัดสระเกศ