คำอธิบาย
รูปหล่อโบราณหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ปี 2499 จ.พระนครศรีอยุธยา สวยๆ
เปิดประวัติ ปาฏิหาริย์ หลวงพ่อจง พุทธสโร !! ตำนานเล่าขาน โปรยปรายทรายเสก !! ระเบิดสักกี่ลูกก็ทิ้งลงมาเลย ไม่แม้ระคายเคือง !!
สำหรับวันนี้ผมก็ขอนำเสนอมาเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยสงครามอินโดจีน กันบ้างนะครับ ซึ่งในสมัยสงครามอินโดจีนเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงของเกจิอาจารย์หลายๆท่านนั้นโด่งดังกันไปทั่วประเทศกันเลยทีเชียวละครับ สำหรับพระเกจิอาจารย์ที่ผมขอนำเสนอบอกเล่าประวัติโดยสังเขปให้แก่ทุกๆท่านในวันนี้ก็คือ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จังหวัดอยุธยา
โดย หลวงพ่อจง หรือ หลวงพ่อจง พุทธสโร ท่านเกิดให้สมัยต้นรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันพฤหัสบดีที่ ๖ มีนาคม ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๕ หรือในปีคริสตศักราช ๑๘๗๒ ที่ตำบลหน้าไม้ อำเภอ บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งครอบครัวท่านมีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด ๓ คน โดยท่านเป็นคนบุตรชายคนโตของครอบครัว โดยในปีพุทธศักราช ๒๔๑๕ เป็นปีเดียวกันกับ ปีมรณะภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งก็เป็นคนพระนครศรีอยุธยาเช่นกันครับ
ซึ่งจากนิสัยและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของหลวงพ่อจง นั้นเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่เบียดเบียนใคร และมีน้ำใจให้ความเอื้อเฟื้อแก่คนบุคคลทั่วไป ดังนั้นบิดาของท่านจึงตัดสินใจให้ พระอุปัชฌาย์สุ่น วัดบางปลาหมอ และ พระ อาจารย์โพธิ์ วัดหน้าต่างใน ช่วยอบรมสั่งสอนตั้งแต่เป็นสามเณร เมื่อตอนอายุได้ ๑๒ ปี ซึ่งในขณะที่หลวงพ่อจง ยังเป็นสามเณรก็ฉายแววของความเจริญรุ่งเรืองในทางธรรม จนท่านได้รับคำชมเชยจากผู้ที่ได้พบเห็น จนกระทั่งท่านอายุครบบวช หลวงพ่อจงท่านจึงตัดสินใจอุปสมบทที่วัดหน้าต่างใน และได้จำ พรรษาอยู่ที่นี่วัดแห่งนี้ และการได้รับการอบรมสั่งสอน ถ่ายทอดวิชาต่างๆจากพระอาจารย์โพธิ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดหน้าต่างใน
ต่อมาหลังจากที่หลวงพ่อจง ได้ศึกษาแนวทางการวิปัสสนากรรมฐานจากพระอาจารย์หลายๆรูป และท่านได้เกิดมีความสนใจในการเรียนรู้ด้านวิชาอาคม ซึ่่งท่านเองก็ได้เกิดความประทับใจนี้มาจาก พระอาจารย์สุ่น วัดบางปลาหมอ ที่ได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่ ท่านเป็นองค์แรก โดยหลวงพ่อจงได้มองว่าการที่ได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆเอาไว้ และนำไปใช้ให้ถูกต้องถูกวิธีและจะก่อประโยชน์ให้กับบุคคลทั่วไปเป็นอันมาก ดังนั้นท่านจึงได้เริ่มศึกษาวิชาอาคมอย่างจริงจังจากพระอาจารย์สุ่น และก็ได้ไปแสวงหาความรู้จากพระอาจารย์องค์อื่นๆ ต่อไปอีกอย่างไม่หยุดยั้ง
ซึ่งจากคำบอกเล่าทื่ว่า หากนำคาถาวิชาอาคมไปใช้ให้ถูกที่ถูกเวลานั้น จะก่อให้เกิดประโยชน์ให้แก่บุคคลอื่นเป็นอันมาก อันจะเห็นชัดได้จากเหตุการณ์ ที่ประเทศไทยเผชิญกับภัยสงครามอินโดจีน ในช่วงปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ – ๒๔๘๕ หรือในปีคริสต ศักราช ๑๙๔๐ – ๑๙๔๒ ซึ่งหลวงพ่อจง ได้รับการอาราธนา ขึ้นเครื่องบินไปโปรายทรายเสก คุ้มครองบ้านเมือง โดยในบริเวณใดที่ได้รับทรายเสกของหลวงพ่อจง แม้ระเบิดจากข้าศึกจะตกลงก็จะด้าน ไม่เกิดระเบิด ไปสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองของประชาชนในบริเวณนั้นครับ ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้เสียงกิตติศัพท์ของหลวงพ่อจงก็โด่งดังไปทั่วกันเลยทีเดียวละครับ แต่ท่านเป็นพระสมถะไม่ได้ยึดติดกับชื่อเสียงใดๆเลยครับ
หลวงพ่อจง ได้เข้าอุปสมบทที่วัดหน้าต่างใน แต่ต่อมาได้มาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดหน้าต่างนอก และได้รับเมตตาการสนับสนุนพระเกจิอาจารย์อย่างมาก ซึ่งก็คือ สมเด็จพระสังฆราช กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์
ภายหลังจากที่สมเด็จพระสังฆราชกรมหลวงชินวรฯ สิ้นพระชนม์ ลงรายนามพระเกจิอาจารย์ ทั้ง ๑๐๘ รูปนั้น ส่วนมากเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ให้ความเคราพนับถือแก่สมเด็จพระสังฆราชเจ้าอย่างใกล้ชิด เช่น หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ, หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม, หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ ครูบาศรีวิไชย, หลวงพ่อจาด วัดบางกะเบา, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เป็นต้นครับ
หลวงพ่อจง ท่านได้มรณะภาพในปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ หรือในปีคริสตศักราช ๑๙๖๔ ศิริอายุท่านได้ อายุ ๙๒ ปี พรรษาที่ ๗๑
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: www.prayotniyom.com , www.web-pra.com