ประสบการณ์ในการใช้วัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด วัดชายนา 2

*เมื่อเกือบเดือนก่อน ท่านสมาชิกเว็บลุงเยี่ยมท่านหนึ่ง บอกให้ช่วยหาเหรียญหลวงพ่อตัดสวยๆ ให้สักเหรียญ…ว่าแล้วพี่ก็เล่าให้ฟังว่า “อย่าเพิ่งแพร่งพรายเรื่องนี้ไปมากนะครับ กลัวเหรียญจะแพงไปมากกว่านี้ จนไม่มีกำลังจะเก็บ”… พี่เล่าว่า เราได้ข่าวนักข่าวหนังสือพิม์ใหญ่แห่งหนึ่ง ที่โดนคาร์บอมบ์ที่ชายแดนภาคใต้เสียชีวิตหรือไม่ เรารับว่าได้ข่าวอยู่ – มีอะไรหรือ

พี่ก็เล่าให้ฟังว่า พี่ของเขาเป็นนักข่าวอยู่ที่เดียวกันนั้น ได้เล่าให้ฟังว่า นักข่าวอาวุโสที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุนั้น เป็นคนดี เป็นนักข่าวท้องถิ่นฝีมือดี และโชคดีมากๆ คนหนึ่ง ก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต ท่านได้สร้างผลงานไว้มากมาย ในการถ่ายภาพข่าวเหตุการณ์รุนแรงที่ภาคใต้ ทั้งเรื่องการระเบิด หรือการวางตะปูเรือใบเพื่อให้รถเสียหลัก แล้วซุ่มโจมตี นักข่าวอาวุโสสามารถถ่ายภาพเหตุการณ์นาทีฉุกเฉินไว้ได้มาก โดยที่ตนเองไม่ได้รับอันตรายใดๆ แคล้วคลาดปลอดภัยมาได้ตลอดจนก่อนที่จะเกิดเหตุอันน่าเศร้าสลดใจนั้น ได้มีนักข่าวรุ่นน้องลงพื้นที่ไปอีก 1 คน นักข่าวอาวุโสที่มากไปด้วยคุณธรรมน้ำมิตรนี้ จึงถอดพระที่เขาห้อยคอติดตัวตลอดมา ให้กับน้องนักข่าว บอกว่า “เอาไว้คุ้มตัว” น้องนักข่าวยังว่า พี่ให้ผมมาคุ้มตัว แล้วพี่ล่ะ จะใช้อะไรคุ้มตัว นักข่าวอาวุโสบอกว่า หากเกิดเหตุการณ์ที่จะต้องไปทำข่าวแล้วอันตรายๆ เขาจะอยู่ในรถ ให้รุ่นน้องไปเก็บภาพ ไปทำหน้าที่เสนอข่าว โดยไม่ต้องกลัวอะไร แต่วันเกิดเหตุ ด้วยความที่มีวิญญาณนักข่าวติดแน่นอยู่ในสายเลือดแล้ว เมื่อมีข่าวคนร้ายลอบวางระเบิด ทีมข่าวจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุทันที นักข่าวอาวุโสกลับวิ่งนำรุ่นน้องไปในที่เกิดเหตุ ลืมคำว่า “จะรออยู่ที่รถ…” ไปชั่วขณะ นักข่าวสองคนที่วิ่งไปในที่เกิดเหตุ จึงโดนระเบิดซึ่งวางไว้ที่รถอีกคน ที่คนร้ายนำมาจอดไว้ นักข่าวอาวุโสเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนนักข่าวรุ่นน้อง คนที่ได้รับพระจากคอของรุ่นพี่มาหมาดๆ ไม่ได้รับอันตรายใดๆ แม้ตามตัวจะโดนสะเก็ดระเบิดด้วย แต่ก็ไม่มีแผลเปิด ไม่มีเลือดให้เห็น!!  ถึงตอนนี้ คงเดาได้แล้ว ว่าเหรียญที่ห้อยคอนักข่าวนั้น คือเหรียญอะไร ของหลวงพ่อรูปใด – เหรียญหลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2518 ค่ะ (พี่ที่เล่าได้เห็นเหรียญนี้ เล่าให้ฟังว่า ผู้ใช้นำมาผูกเชือกร่มธรรมดา ห้อยแบบเปลือยๆ จนมีสภาพผ่านการใช้โชกโชน) หลังจากนั้น ในงานศพของนักข่าวอาวุโส ผู้เสียสละชีวิตในการทำหน้าที่จนถึงที่สุด และน้ำใจไพศาลที่มีให้กับรุ่นน้องนักข่าว สังกัดเดียวกัน…
มีเพื่อนๆ นักข่าว ขับรถพากันไปร่วมงานศพ ด้วยบรรยากาศเศร้าโศก…ได้เกิดเหตุร้ายที่ไม่คาดฝันซ้ำซ้อนขึ้นอีก คือรถนักข่าวคันหนึ่งประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ทำให้รถซึ่งใช้แก๊สระเบิด ทุกคนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ…แต่น้องนักข่าวที่ห้อยเหรียญอยู่ กลับไม่ได้มาในรถคันนี้ด้วย (ทั้งๆ ที่น่าจะมาคันนี้)
คุณนักข่าวที่ได้รับเหรียญมรดกนี้ เดินร้องไห้เข้าไปในงานศพ พร้อมกับห้อยเหรียญเชือกร่มออกมาไว้นอกเสื้อ…เพื่อเป็นการประกาศความเสียสละของนักข่าวรุ่นพี่  หลังจากนั้น นักข่าวผู้ไม่ค่อยเชื่อถือโชคลาง หรือวัตถุมงคลท่านนี้ ก็มาตามเก็บเหรียญที่เหมือนกับในคอของเขาไปอีก 7 เหรียญ…นำไปแบ่งปันกับเพื่อนๆ ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จบภาค 1 
ภาค 2
หลังจากได้ฟังเรื่องเหรียญกันแล้ว พี่สมาชิกเว็บลุงเยี่ยมท่านนี้ ก็ได้มานิมนต์เหรียญที่ลูกลุงเยี่ยมหาไว้ให้ พร้อมๆ กันทีเดียว 3 เหรียญ ลูกลุงเยี่ยมก็กัดฟันหามาขึ้นคอเหรียญหนึ่ง (ก่อนหน้านี้ยังเฉยๆ อยู่ คิดว่าใช้ที่มี ไม่ค่อยสวยๆ ไปก่อนก็ได้ ถึงได้ว่า ไม่ทันคนไกลๆ เขา) พี่บอกว่า ได้เหรียญแล้วก็นำไปเลี่ยมทอง จะเอาไปให้พี่ชาย และพ่อใช้ด้วย แล้วว่าว่างๆ จะถ่ายรูปมาให้ดูแต่ก่อนจะได้ดูรูปเหรียญ ไม่กี่วันก่อน พี่เล่าให้ฟังว่า “เหรียญที่บูชามา มีประสบการณ์ที่ไม่อยากประสบแล้ว!! นี่ยังตกใจอยู่เลย เดี๋ยวไปหาหมอแล้ว หายตกใจแล้ว จะติดต่อมาใหม่” ปรากฎว่า พี่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลโครงงานก่อสร้าง วันเกิดเหตุ พี่กำลังจะออกจากห้องทำงาน ไปที่ไซต์งาน แล้วเกิดนึกแว๊บๆ เป็นห่วงเหรียญหลวงพ่อ 3 เหรียญที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน เลยเดินย้อนกลับมาเอาเหรียญใส่กระเป๋าเสื้อไปด้วย ปรากฎว่าพอออกมานอกห้อง ต้องผ่านที่เขากำลังมีการก่อสร้างอะไรกันอยู่ด้านบน มีเสียงเอะอะตะโกนขึ้น พี่ก็หยุดมองซ้ายขวา แล้วก็มีอะไรวูบๆ ตกลงตรงหน้าพี่ ห่างไปไม่กี่เมตร เสียงดังโครมใหญ่! มันคือแท่งเหล็กคานหลังคาโรงงาน ที่พี่เรียกว่า i-beam ขนาดประมาณๆ เสาไฟฟ้าข้างทาง หากตกลงมาทับผู้ใด ก็คงจะเสียชีวิตทันที แม้ไม่โดนตรงๆ แต่วงสวิงของเขา ที่อาจจะกระเด้งกระดอนไปมา ก็ต้องฟาดร่างกายจนทำให้บาดเจ็บ แข้งขาหักได้  แต่เจ้าแท่งเหล็กนี้ ตกลงไปโดนกองไม้หน้าสาม และมีไม้ท่อนหนึ่ง กระเด็นมาฟาดที่หน้าแข้งของพี่ แทนที่จะเป็นเหล็ก พี่ทั้งตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และสะดุ้งตอนที่มีไม้กระเด็นมาโดนหน้าแข้ง…หลังจากหายงงแล้ว ก็ก้มดูหน้าแข้งตนเอง ปรากฎว่าบวมๆ เขียวๆ เดินไม่ไหว ต้องมีคนพยุงออกจากที่เกิดเหตุไป  อีกวัน พี่ก็ไปหาหมอ หมอตรวจหน้าแข้งก็พบว่า “กระดูกร้าว” พี่เลยรำพึงในใจว่า “หลวงพ่อแน่จริงๆ ไม้ฟาดแรงขนาดทำให้กระดูกร้าวได้ แต่กลับไม่มีแผล ไม่ได้เลือด ถ้าไม่ได้บารมีหลวงพ่อ คราวนี้คงเดี้ยงเหมือนกัน ถ้าไม่เดินย้อนกลับไปเอาเหรียญที่โต๊ะ ออกมาจากห้องก็คงจะโดนแท่งหล่นตกทับพอดิบพอดี” พี่บอกว่า พระ 3 องค์ ที่ตอนแรกคิดจะแบ่งปันให้พี่น้อง ก็เลยเปลี่ยนใจ ขอห้อยเองทั้งสามองค์ พร้อมๆ กันเลย แถมยังบอกว่า เดี๋ยวมาวัดอีกที คงจะเป็นคนแรก ที่ห้อยพระรุ่นเดียวกัน เหมือนกัน ทีเดียว 3 องค์

*หลายปีก่อน มีเหตุฮือฮากันขึ้นในพื้นที่ ว่าคนโดนยิงด้วยปืนลูกซอง แต่ไม่เข้าเพิ่งมีโอกาสได้สอบถามน้องเขย ซึ่งเป็นตำรวจ อยู่ในท้องที่ (สภต.หนองจอก) ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ก็พอดีว่า น้องเขยอยู่ในเหตุการณ์ด้วย คือเมื่อหลายปีมาแล้ว ค่ำวันหนึ่ง มีชายฉกรรจ์ไปด้อมๆ มองๆ อะไรอยู่ในบริเวณโรงพัก ตำรวจที่อยู่เวรเห็นเข้า เลยเรียกมาสอบถาม ว่ามาด้อมๆ มองๆ อะไรแถวนี้ชายผู้นั้นตอบว่า “ผมโดนยิงมา” ตำรวจจึงนั่งลงสัมภาษณ์ และตรวจสอบตามร่างกาย พบรอยจ้ำๆ เขียวๆ ตามตัวหลายรอย เป็นรอยที่ดูเหมือนโดนกระสุนปืนลูกซองยิงมาจริง เพียงแต่ไม่เข้าสักนัด! เมื่อเห็นดังนั้น จึงขอดูว่า มีอะไรดีหรือ ก็พบว่า ทั้งเนื้อทั้งตัวของชายคนนั้น มีตะกรุดติดเอวอยู่ดอกเดียว…แน่นอน เป็นตะกรุดของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ว่าแล้วตำรวจจึงรีบรุดไปตอบสอบที่เกิดเหตุ ที่อยู่ห่างออกไปอีก ก็พบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุจริง  จากนั้น ชื่อเสียงของตะกรุด วัดชายนา จึงเป็นที่รู้จัก และถามหามาจนถึงบัดนี้     *เมื่อวานมีประสบการณ์เล็กๆ นิดหน่อย คือลูกลุงเยี่ยมขับรถไปนอนเฝ้าพ่อ เป็นเพื่อนแม่ที่โรงบาลในเมือง ไปตอนค่ำแล้ว ประมาณ 2 ทุ่ม โดยเลือกใช้เส้นทางท้องถิ่น ทางลัดนั่นเอง ซึ่งค่อยข้างมืดๆ เปลี่ยวๆ เป็นบางช่วง ช่วงที่ออกจากถนนตามหมู่บ้าน ไปขึ้นถนนใหญ่สายเพชรบุรี – หาดเจ้า นั้น (ห่างเมืองหลายโลอยู่) ปรากฎว่า ในขณะที่ขับเพลินๆ อยู่นั้น ก็มีก้อนหินก้อนเขื่อง ปลิวมาจากไหนไม่รู้ กระแทกกระจกหน้า ด้านซ้ายดังตึก!! ลูกลุงเยี่ยมตกใจพอดู แบบว่าไปไหนมาไหนคนเดียวด้วยดิ ใจคิดไปถึงการปาหินใส่รถ ที่เป็นข่าวทำให้คนถึงตายมาช่วงหนึ่ง คิดได้ดังนั้น หลังจากตกใจ ก็เกิดใจหายแว๊บขึ้นมา แต่ดูกระจกรถก็ไม่เป็นไร เราก็ไม่ตกใจจนรถเสียหลัก ก็ขับต่อไปจนถึงช่วงชุมชน มีไฟทางสว่างสไว ไม่น่ากลัว…นึกในใจ สาธุๆๆ พุทธัง แคล้วคลาด ธัมมัง แคล้วคลาด สังฆัง แคล้วคลาด    (กราบขอบพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์รวมๆ เลยค่ะ เพราะที่รถมีวัตถุมงคลหลายอย่าง หลายอาจารย์)

* ท่านสมาชิกเล่าให้ฟังทางเมล์ค่ะ ขออนุญาตนำมาโพสต์ไว้ที่นี่ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่สละเวลาพิมพ์เล่าให้ฟังค่ะ   เมื่อต้นเดือนผมนำพระนางพญาของหลวงพ่อตัดไปห่มจีวรที่ร้านทองแถวพรานนก น้องที่ทำกรอบพระให้ผม ถามผมว่าพี่จะปล่อยให้เช่าต่อหรือเปล่า ผมบอกว่าไม่เพราะผมมีองค์เดียว ค้นได้จากบ้านน้ามา อยากเก็บไว้ใช้เอง แล้วผมก็ถามว่ารู้ได้ไงว่าเป็นพระหลวงพ่อตัด น้องตอบว่าเห็นยันต์ด้านหลังก็รู้แล้ว น้องเขาชอบที่พระนางพญาของหลวงพ่อผสมเส้นเกศาเห็นชัดเจน แต่เขาไม่มีประสบการณ์รุ่นนี้ แต่ที่เขาศรัทธาในตัวหลวงพ่อมาก เนื่องจากเขาเคยไปวัดชายนามาแล้วรับตะกรุดจากมือของหลวงพ่อมา 1 ดอก ยาวประมาณ 5 นิ้ว (ผมไม่แน่ใจว่าเป็นตระกรุดโทนหรือเปล่า ถ้าคุณเก๋รู้ช่วยตอบกลับด้วยนะครับ) ตัวเขาเองมีตระกรุดของอาจารย์ x… อยู่แล้ว รับมากับมืออาจารย์ x… เหมือนกัน ตัวเขาเองมีเพื่อนเป็นตำรวจหลายคน เป็นคนเพชรก็มี มีอยู่วันหนึ่งเขาดื่มเหล้ากันแล้วก็นึกสนุกอยากลองของกัน ก็เลยชวนเพื่อนที่เป็นตำรวจไปลองของแถวบางขุนเทียน เขาก็นำตระกรุดของหลวงพ่อตัด และของอาจารย์ x…ไปลองยิงกัน ตัวเขาเองบอกว่าไม่ได้ลบหลู่นะ เขาบอกผมว่าใช้ปืน 3 กระบอกในการทดสอบ โดยนำตะกรุดไปแขวนที่ต้นไม้ แล้วยิง ผลปรากฏว่า… (คุณเก๋คงลุ้นอยู่ในใจหรือรู้อยู่ในใจว่าผลเป็นอย่างไร) ของอาจารย์ x… กระบอกแรกก็กระเด็นแล้วครับ ส่วนของหลวงพ่อตัด 3 กระบอก ก็ แชะๆๆ ตัวเขาเองตอนลองยิงเขาบอกว่าขนลุกไปทั้งตัวเลย แต่เมื่อนำปืนทั้ง 3 กระบอกยิงขึ้นฟ้า ก็ ปังๆๆ เขาเลยเก็บตระกรุดของหลวงพ่อไว้บูชา โดยที่คนอื่นรู้ข่าวมาขอชมตะกรุด เขาก็เก็บไม่ให้ใครดูง่ายๆ จะพกติดตัวเฉพาะเดินทางไปต่างจังหวัดเท่านั้น ส่วนตระกรุดอาจารย์ x… ก็ได้ให้เพื่อนไป ตอนหลังผมถามเขาว่า ลองตะกรุดมา ของสำนักไหนที่ว่าแน่ที่สุดสำหรับตัวเขา เขาบอกว่า “หลวงพ่อตัดคือที่ 1 ของเขา” อีกสำนักหนึ่งคือ ของหลวงพ่อปาน แต่หายากมากครับ นี่ก็เป็นที่มาของเรื่องที่ผมเล่าให้ฟัง…

 *ผมพึ่งได้เคาะพระปิดตามาจากเว็บประมูลเว็บหนึ่ง ก็อาราธนาท่านขึ้นคอครับ ด้วยความที่อยากลอง เห็นตามหนังสือพระของท่านเหนียวทางปืนและทางมีด อยากรู้ว่าถ้าสัตว์กัดมาจะเหนียวไหม ด้วยความที่ชอบลองของ ผมเดินไปเหยียบหางสุนัขที่บ้านผมเข้าอย่างแรง ตอนมันกำลังนอนอยู่ ด้วยสัญชาตญาณของสุนัขมันงับเข้าที่น่องผม 1 ที แต่ก็ไม่มีเลือดและไม่เข้า แต่ช้ำครับ ตามภาพ 
                    
   

*วันนี้อีกเช่นกัน ที่ไปวัดมา และได้ฟังท่านอาจารย์เล่าประสบการณ์ให้ฟังอีก 2 เรื่อง เกี่ยวกับตะกรุดวัดชายนาค่ะท่านเล่าให้พี่ทหารสองนายกับครู 1 คนฟัง ลูกลุงเยี่ยมเลยได้ฟังไปด้วย คือเรื่องที่หนึ่ง เหตุเกิดแถวแม่กลอง คือหนุ่มคนหนึ่ง โดนคู่อริตามประกบ และชักปืนขนาด 11 ยิงใส่ในระยะเผาขน 3 นัด เข้าที่อกทุกนัด คนโดนยิงหงายท้องลงไปนอนวัดพื้นตามแรงกระสุน มือปืนก็หนีไปจากที่เกิดเหตุ จากนั้นมีไทยมุงทยอยเข้ามามุง…วิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่…แต่แล้ว คนโดนยิงกลับงัวเงียลุกขึ้นมา แล้วทำท่าจุกๆ ที่หน้าอก แต่ก็แค่จุกเท่านั้น เพราะไม่มีบาดแผลค่ะ เรื่องที่สอง ทหารคนหนึ่ง ได้ตะกรุดยุคที่จารด้วยกระป๋องไปใตดตัว 2 ดอก ก็ไปปฏบัติหน้าที่ทางภาคใต้ วันหนึ่งเกิดพลาดท่าโดนยิงเข้า…ปรากฎว่าไม่เป็นไรอีกเช่นกัน เพื่อนที่เห็นเหตุการณ์เลยถามหา ขอดูของดี เขาจึงนำตะกรุดออกมาให้ดู เพื่อนทหารคนนั้นจึงขอแบ่งไปใช้ 1 ดอก
*เมื่อวาน มีผู้ใหญ่บ้านจากโคราช โทรไปเล่าให้พระอาจารย์รองฯ ฟังว่าลูกบ้านของเขาคนหนึ่ง ได้ตะกรุดจากวัดชายนาไป แล้วเอาไปลองยิง…ปรากฏว่า ปืนแตก มือบาดเจ็บ นิ้วโป้งหวิดขาด (หรือถึงขาดก็ฟังไม่ถนัด) อีกเรื่อง ลูกศิษย์ของหลวงพ่อคนหนึ่ง เป็นทหาร (คนที่ห้อยปลัดฯ เยอะๆ 108 ดอก รอบเอว) ได้ไปประจำการที่ ยะลา มีระยะหนึ่งแล้ว โทรมาเล่าให้ฟังว่า วันก่อนเพื่อนร่วมงานโดนระเบิดตาย และบาดเจ็บ 6 คน…จริงๆ น่าจะรวมเขาด้วย ที่จะต้องเจ็บหรือตาย แต่บังเอิญ เขาออกจากฐานไปซื้อขนมที่ตลาด ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุร้ายไม่นาน เขาจึงโทร.มาขอบคุณหลวงพ่อ ที่เขารู้สึกว่าช่วยให้เขาแคล้วลคาดมาได้
*วันก่อนโน้นนนน พี่สมาชิกฯ รุ่นใหญ่ได้สั่งเหรียญเลื่อนฯ ปี 48 เนื้อตะกั่วไปบูชา 1 องค์ไม่นานวันหลังจากนั้น พี่ก็ส่งข่าวว่า ได้เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงาน ไปอยู่ตึกใหญ่กว่าเก่า เงินเดือนมากกว่าเก่า ตำแหน่งสูงกว่าเก่าค่ะ ก็ยินดีกับพี่ด้วยนะคะ   อีกราย เป็นน้องละอ่อนน้อย สมาชิกใหม่ ที่บูชาเหรียญเลื่อนฯ ปี 48 ไปเช่นกันค่ะ (เนื้อทองฝาบาตร) น้องโทรมาเล่าให้ฟังด้วยความตื่นเต้นยินดีว่า หลังจากได้รับเหรียญไป ก็อาราธนาใช้ แล้วไปสมัครงานครู (ที่น้องอยากเป็น) วันต่อมา เขาก็เรียกไปสัมภาษณ์ – ซึ่งแค่เรียกสัมภาษณ์น้องก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ โทร.มาเล่า เรายังว่า ไปสัมภาษณ์มาแล้ว ผลเป็นอย่างไร กลับมาเล่าให้ฟังด้วยวันต่อมา น้องโทรมาเสียงดี๊ด๊าเชียว บอกว่า “ผมได้งานแล้วนะพี่” โอ้…ยินดีด้วยค่ะน้อง เขาไม่ต้องรอฟังผลหรือ น้องบอก ไม่เลย สัมภาษณ์เสร็จ เขาก็บอกว่ารับเลย บอกวันให้มาเริ่มงาน ทั้งๆ ที่น้องบอกว่า ต้องมีวุฒิครู และตามจริงเขาประกาศรับแค่คนเดียว แต่ปรากฎว่า เขารับอีกคนไว้แล้ว มีวุฒิครูตามเสป้กที่เขาต้องการ แต่ทำไมเขารับน้องด้วยก็ไม่ทราบ น้องบอกดีมาก…เราก็ดีใจกับน้องด้วยค่ะ    ทั้งนี้ทั้งนั้น บางคนได้เหรียญเลื่อนฯ ไป อาจจะไม่ได้มีประสบการณ์ดีๆ เห็นผลชัดเจนรวดเร็วขนาดนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยอื่นๆ ด้วยนะคะหลวงพ่อเคยบอกว่า “เงินไม่เคยเอาไปฝากธนาคาร จะถอนมาใช้ได้อย่างไร”  

*ร้อนๆอีกแล้วครับพี่เก๋ หลังป้าได้สั่งผมบูชาเหรียญเลื่อนหลวงพ่อตัด ป้าโทรมาเล่าฟังว่า หลังได้เหรียญเลื่อนหลวงพ่อตัดไป ก็แบ่งให้ลูกชายเขาแขวนเพื่อไปสอบ อบต. ก่อนหน้านั้นลูกชายป้าเขาตกงาน เกือบ 5 ปี วันนี้ประกาศผลสอบ …สอบติดแล้วครับ !! รอทำเดือนมกราคม ฮิ้วๆๆ 

   *วันนี้ลูกลุงเยี่ยมเฟอะฟะ  ขี่มอเตอร์ไซค์เกียร์อัตโนมัติของน้องสาว (ที่ไม่ค่อยคุ้นมือ) ไปซื้อของที่ร้านค้าใกล้บ้านปรากฎว่า หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว กำลังขี่รถกลับบ้าน จะเลี้ยวขวาเข้าถนนเมน  เห็นมอเตอร์ไซค์อีกคันขับมาทางขวาเช่นกันเลยตกใจกำเบรคมือล้อหน้าปั๊บ! ล้มปุ๊บทันที     ลูกลุงเยี่ยมลงไปนอนวัดพื้น  คลุกฝุ่นเป็นหนุมานเลย  มอเตอร์ไซค์ล้มมาทับตัวเองด้วย  พี่มอเตอร์ไซค์ที่ขับมาเลยจอดลงมาช่วยยกรถให้  (อายจัง)  แล้วก็สอบถามว่าเราเป็นอะไรหรือเปล่า  ขี่รถกลับไหวไหม  ลูกลุงเยี่ยมลุกขึ้นมาสำรวจตัวเอง  สำหรับรถ  ก็ไม่เป็นไร  มีแผลถลอกที่ข้อเท้า  และเขานิดหน่อย  เลือดซิบๆ พองามปัดฝุ่น  ปัดเศษหญ้าแล้ว  ก็ยืนยันกับพลเมืองดีว่า  “ไปได้ค่ะพี่ ไม่เป็นไร”  พี่เขาก็สอนว่า  ถ้าจะเลี้ยวนะ  ใช้ดิสเบรกไม่ได้  จะล้มทันที  แหะๆ  ค่ะๆ  หนูเฟอะฟะเองค่ะ  ไม่ค่อยได้ขี่คันนี้อ่ะ    ก็ไม่ทราบว่าบังเอิญ  หรือเป็นเรื่องธรรมชาติ  ที่เราไม่เป็นอะไรมากกับความเฟอะฟะครั้งนี้  (ในตัวก็มีตะกรุดติดเชือกผูกข้อมืออันเดียว)

 *เมื่อวาน มีท่านสมาชิกโทรมาสอบถามเกี่ยวกับวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัด แล้วแสดงความสนใจเกี่ยวกับประสบการณ์ของ “พี่สืบ” เป็นพิเศษ ได้คุยกันว่า พี่เขาศรัทธาหลวงพ่อมาก เพราะเขาเอาไปลองกัน แล้วเห็นผลกับตา พี่สืบคนนี้ก็หาใช่กล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆ พี่ยอมให้ถ่ายรูปลงได้ด้วย ไม่ต้องอำพรางโฉมหน้าแต่อย่างใด เปิดเผย แมนๆ อยู่แล้ว ท่านสมาชิกเลยเล่าบ้างว่า ที่เขามาตามหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อนี้ ก็เพราะการลองเช่นกัน เห็นผลประจักษ์จริง แถมยังมีผลพวงอันน่าเศร้าสลดตามมาด้วย…พี่ออกตัวว่า ไม่อยากเล่าเลย เรื่องนี้ มันไม่ดี…แต่ลูกลุงเยี่ยมขออนุญาตนะคะ ขอเล่าไว้เป็นอุทหรณ์เตือนใจค่ะพี่บอกว่า คนรู้จักได้ลอง “ตะกรุด” ของวัดชายนา โดยนำไปใส่ปากปลาแล้วยิงค่ะ ปรากฎว่า ยิงออก โดนปลากระเด้ง…แต่ปลาไม่เป็นไรค่ะ! เท่านี้ยังไม่พอ คนที่ลองบอกว่า “ขออีกสักทีเถอะ” โดยยิงไปที่ปลาอีก ปลาก็ไม่เป็นไรอีกเช่นเดิม…ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างประจักษ์ในพุทธคุณของตะกรุด และหลวงพ่อตัดแต่…บุคคลที่เป็นมือยิงนั้น หลังจากเหตุการณ์ก็ปรากฎว่า “สติรั่ว” ไปเลย…ยิ่งโดยเฉพาะ เวลาที่ได้เห็นปลา อาการจะขึ้น จะรั่วมากกว่าปกติ   ลูกลุงเยี่ยมขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ – ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ช่วยปกป้องคุ้มครองเขา ขอจงให้ดลบันดาลให้เขาขอขมาต่อพระรัตนตรัย เนื่องจากเขาคงรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่น ขอให้หาย มีสติกลับคืนในเร็ววัน

*เรื่องงาน หรือว่าเรื่องโชคลาภนี่เด็ดขาดนัก ผมมีประสบการณืเองกับตัวบ่อยๆไป ส่วนเรื่องบู๊ๆนั้น ผมไม่มีเลยเพราะไม่ค่อยถนัด แหะๆๆล่าสุดนี่แขกก็ทิปมาให้15,000 ไม่รวมช็อปปิ้งอีก 20,000 นี่ก็ยังขาดอีก 4,000 ก็จะคืนทุนค่าเหรียญเลื่อนทองคำแระ อิอิอิ ม่ายด้ายโม้!!!